เรากำลังใช้เกณฑ์อะไรในการเลือกคณะกันแน่

ในการเลือกคณะเรียนต่อ มีปัจจัยหลายๆอย่างที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของเรา แต่ ในท้ายที่สุด เหตุผลที่จะทำให้เราเลือกคณะ อะไรนั้นก็แบ่งได้ออกเป็นสองประเภทใหญ่ๆ
1. เหตุผลที่ผิวเผิน
2. เหตุผลที่ลึก ซึ้ง

เหตุผล ที่ผิวเผิน เช่น จบมาแล้วรวยไหม จะมีชื่อเสียงไหม มีเกียรติไหม ดูดีไหม
เหตุผลที่ลึก ซึ้ง เช่น ทำแล้วเราจะมีความสุขไหม ทำแล้วเราจะพอใจไหม เราจะทำอะไรให้คนอื่นได้บ้าง

ถ้า เราอยู่ในช่วงกำลังตัดสินใจ ให้ลองนึกดูว่า เรากำลังจะเลือกคณะนี้ เพราะเหตุผลที่ผิวเผิน หรือ เพราะเหตุผลที่ลึกซึ้งตรงกับตัวเรา ถ้าเหตุผลหลักๆที่เลือกเป็น เพราะเหตุผลที่ผิวเผินล่ะก็ คงจะต้องลองคิดใหม่แล้วล่ะ ค่ะ

ทำไม ล่ะ เราจะเลือกเพราะเหตุผลที่ผิวเผินไม่ได้เหรอ?
ได้ ค่ะ เป็นชีวิตของเรา ไม่มีใครว่าหรอก แต่อย่าลืมว่า เหตุผลที่ผิวเผิน มันมีรากฐานมาจากการที่เรา คิดว่า เมื่อเราได้สิ่งเหล่านี้มา แล้วจะมีความสุข เช่น เมื่อรวย เมื่อมีชื่อเสียง เมื่อมีหน้ามีตาในสังคม  แต่จริงๆแล้ว เมื่อคนเราเปลี่ยนไป สิ่งที่เราคิดว่าจะทำให้เรา มีความสุขมันก็เปลี่ยนไปด้วย เพราะคุณค่าของเราเปลี่ยน แปลงไป  ตอน วัยรุ่น สิ่งที่สำคัญก็มักจะเป็นการ ได้รับการยอมรับจากเพื่อนๆและสังคมรอบข้าง เมื่อเป็นวัยทำงานก็มักจะ เป็นเงินทอง แล้วแต่ละคนก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ขึ้นกับวิถีทางในการเติบโต ของแต่ละคน ตอนเป็นวัยรุ่นอาจจะยังมอง ไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่นะคะว่า อะไรจะไปสำคัญกว่าเพื่อน แต่ลองไปถามผู้ใหญ่ก็ได้ค่ะว่า สิ่งที่สำคัญในชีวิตมัน เปลี่ยนไปตามช่วงวัยจริงหรือเปล่า

เพราะ ฉะนั้น ถ้าเราเลือกเพราะเหตุผลที่ผิวเผิน เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งที่เราเคยคิดว่าสำคัญ นั้น มันกลับไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว เราก็จะลำบากค่ะ  เหมือนตอนที่ม่อนเลือก เรียนหมอ เมื่อมองย้อนกลับมา ม่อนเองก็ต้องยอมรับว่าเลือก ไปด้วยเหตุผลที่ผิวเผินนะคะ ตอนนั้นก็คะแนนถึง แล้วเพื่อนๆก็เรียนหมอกันหมด เราจะไปเรียนอะไรดีล่ะ ก็คงต้องเรียนหมอนี่แหละ ดูดีสุดแล้ว แต่พอเรียนๆไป โตขึ้นก็รู้ว่า การดูดี หรือ การทำอะไรเหมือนเพื่อนเนี่ย แทบจะไม่มีความสำคัญอะไรกับ ชีวิตเราเลย

แต่ถ้าเราเลือกด้วยเหตุผล ที่ลึกซึ้งที่มาจากใจ มาจากตัวตนของเรา ว่า เราชอบสิ่งนี้ เราทำแล้วมีความสุข เราทำแล้วเกิดความพอใจ (satisfaction) มันจะยั่งยืนกว่ามากค่ะ

แล้วความชอบ ความพอใจของเรา ไม่เปลี่ยนแปลงหรือ?
เปลียนแปลงแน่นอนค่ะ เพราะคนที่เติบโตคือคนที่ไม่เคยหยุดการเรียนรู้ ฉะนั้นความชอบก็ต้องเปลียนไป
แต่ การเปลี่ยนแปลงนั้น มันจะเป็นไปในลักษณะของการรู้จักตัวเองมากขึ้น ทำให้เข้าใจความต้องการของ ตัวเองมากขึ้น เหมือนเป็นการปรับแต่งมากกว่า แล้วเราก็จะค่อยๆโตขึ้นจน พร้อมกับความชอบที่เปลี่ยนแปลงไปของตัวเองด้วย
ม่อนจะยกตัวอย่างเรื่องของตัวเองดีกว่านะคะ ให้ผู้อ่านเข้าใจมากขึ้น  ม่อนเองตอนที่ตัดสินใจว่า อยากจะทำงานด้านการศึกษา เป็นเพราะเหตุผลที่ลึกซึ้ง เพราะม่อนรู้ว่าตัวเองชอบเห็นคนอื่นเติบโต และจะดีใจถ้าตัวเองได้เป็นส่วน ช่วยให้เขาได้เติบโตขึ้น ตอนแรกๆม่อนก็ยังไม่รู้หรอกค่ะว่าอยากเป็นอะไรแน่ รู้แต่ว่าอยากทำงานด้านการ ศึกษา ก็คิดไว้ว่า น่าจะเป็นครู ไม่ก็อาจจะทำงานด้านการ บริหารโรงเรียน ก็คิดไว้แค่นี้  เคยมีคนถามว่าอยากทำงานด้าน วิชาการไหม ก็คิดนะคะว่าคงไม่แน่ๆ  ไม่คิดว่าไม่ชอบอะไรที่เป็น ทฤษฎี ชอบอะไรทีเป็นทางปฏิบัติมากกว่า

ตอน แรกๆที่เรียนที่ฮาร์วาร์ด ต้องอ่านเรื่องทฤษฎีการศึกษา ทฤษฎีจิตวิทยาและพัฒนาการ ก็ไม่ค่อยชอบหรอกค่ะ เพราะคิดว่าไม่เห็นจะมี ประโยชน์ในชีวิตจริงเท่าไหร่เลย   แต่พอไปประมาณเทอมสอง เริ่มอ่านมากๆเข้า ทำงาน ทำโปรเจคส่งอาจารย์มากๆเข้า ก็ รู้สึกว่าทฤษฎีและงานวิจัยด้านการศึกษาก็มีประโยชน์เหมือนกัน เพราะ ทำให้เราได้แนวคิดอะไรใหม่ๆที่สามารถเอามาปรับใช้ได้ และที่สำคัญ สิ่งที่เราวิจัยและสังเคราะห์ขึ้นมา อาจจะมีประโยชน์กับคนรุ่น หลังๆโดยที่เรานึกไม่ถึง ม่อนรู้สึกชอบและทึ่งใน อิทธิพลของแนวความคิดที่สามารถมีต่อคนในรุ่นหลังๆได้  ม่อนเลยเริ่มรู้สึกอยากมีส่วนร่วมต่องานแบบนี้บ้าง ซึ่งก็ทำให้ม่อนเริ่มมองถึง การทำงานด้านวิชาการ งานวิจัยต่างๆ ซึ่งม่อนก็ยังไม่รู้นะคะว่า ต่อไปม่อนจะไปลงเอยด้วยการทำงานอะไรที่ไหน แต่ตอนนี้ก็รู้ว่าความชอบและ ความต้องการของตัวเองเป็นอย่างนี้

แล้วถามว่า ถ้าอย่างนี้ ถือว่าตอนแรกที่ม่อนตัดสินใจลาออกจากหมอไปเป็นครู ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดหรือเปล่า
ไม่ นะคะ เพราะว่า การเป็นครู  ม่อนก็ชอบ เพียงแต่เมื่อเราได้เรียนรู้ และได้ลองอะไรมากขึ้น ความชอบความสนใจเราก็เริ่มชัดขึ้น ม่อนก็ยังอยู่ในงานด้านการศึกษาอยู่ เพียงแต่รู้ขอบเขตงานที่เรา อยากทำมากขึ้น  ที่ เป็นอย่างนี้ได้ เป็นเพราะตอนนั้นม่อนเลือกจาก ใจ ม่อนเลือกเพราะม่อนรู้ว่างาน การศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญกับม่อน เป็นสิ่งที่ม่อนยอมทุ่มเทให้    มันเป็นไปได้ยากค่ะ ที่คนเราจะรู้ว่าเราอยากเป็นอะไรเลยในการตัดสินใจครั้งแรก แต่ถ้าเราเลือกจากหัวใจ มันก็จะเป็นการตัดสินใจที่ถูกเสมอค่ะ

ขอบคุณแหล่งข้อมูลดีดี : ครูม่อนดอมคอม

เกาะติดข่าวการศึกษา

รับตรง 2555

54 thoughts on “เรากำลังใช้เกณฑ์อะไรในการเลือกคณะกันแน่

Add yours

  1. การเลือกคณะที่จะเรียนสำหรับหนู ก็คงเป็นว่า เมื่อเราเรียนจบแล้วมีงานมำไหม มีความมั่นคงในอาชีพแค่ไหน มีความปลดภัยในการทำงานมากน้อยเพียงใด ส่วนการชอบในสาขาที่จะเรียนก็ส่วนหนึ่งค่ะ แต่ไม่มาก เพราะถ้าเลือกเรียนที่ชอบ แล้วจบมางานที่ทำมันไม่มั่นคง ก็ไม่น่าจะดีค่ะ ^^

  2. การเลือกคณะไม่จำเป็นว่าจะต้องมีเหตุผลแค่2เหตุผลนี้เท่านั้นอีกอย่างก็คือเราต้องรักที่จะเรียนคณะนั้นและที่สำคัญเรามีความพร้อมแค่ไหนในเรื่องการเงินเป็นสำคัญแต่ที่สุดแล้วถ้าเรามีความตั้งใจจริงคณะที่เราใฝ่ฝันไว้ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเรา

  3. รู้จักตัวเอง รู้ว่าตัวเองชอบอะไร และทุ่มเททำออกมาให้ดีที่สุด อนาคตวันข้างหน้าอยู่ที่เราเลือกทำในวันนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คืออนาคตของเรานั้นต้องการที่จะทำงานอะไรกันแน่รักงานนี้มั้ย ถ้าตอบตัวเองว่าใช่ก้อลงมือตั้งใจทำในสิ่งที่ตัวเองรักซะ แล้วอนาคตเมื่อเรียนจบเราจะมีความสุขกับงานที่ทำ และไม่ต้องมาเสียใจภายหลังว่างานที่ทำมันไม่ใช่ตัวเอง เพราะเมื่อเราโตขึ้น ได้เห็น ได้ฟังอะไรๆมากขึ้น ความคิดเราจะเปลี่ยนแปลงไปด้วยฉะนั้นต้องวางแผนให้ดีๆก่อนจะเลือกทำอะไรเลือกเรียนคณะอะไร

  4. ตอนนี้หนูก็ยังไม่รู้ตัวเลยว่าแท้จริงแล้วหนูอยากทำอาชีพอะไรกันแน่ แต่ความคิดแรกที่มันแวบมาในหัว คือ เรียนอะไรก็ได้ที่มีเงินเดือนเยอะๆ แล้วก็เท่ๆด้วย หลังจากที่ได้อ่านเรื่องของม่อน หนูคงต้องเปลี่ยนความคิดซะใหม่ คงจะไม่เลือกเรียนด้วยเหตุผลผิวเผิน แต่จะพยายามค้นพบตัวเองและใช้เหตุผลอย่างลึกซึ้งเลือกเรียน

  5. การที่หนูจะเลือกคณะที่หนูจะศึกษาต่อ อันดับแรกเลยหนูต้องชอบเรียนคณะนี้และคิดว่าจะเรียนไหวไหม ในขณะที่เรียนมีความสุขมากน้อยเพียงใด จบมามีงานทำ ดูมั่นคง

  6. การเลือกคณะเรียนของหนู อย่างแรกที่หนูคิดก็คือเมื่อเรียนจบมาจะมีงานทำมั้ยและมีความมั่นคงมากแค่ไหน จะดูแลพ่อแม่ได้มากน้อยเพียงใด แต่หนูก็ชอบในคณะที่หนูจะเรียนเพราะว่าคณะที่จะเรียนก็มีความต้องการคนเรียนมากอยู่เหมือนกีน และก็จะทำให้สำเร็จ

  7. อย่างแรกที่หนูคิดคือ เรียนจบแล้ว เราสามารถทำงานอะไรได้บ้าง งานนั้นมั่นคงหรือป่าว งานที่ทำมันเข้ากับตัาเราหรือป่าว แล้วในการเลือกคณะที่จะเรียนหนูคิดว่าคณะนั้นต้องเป็นคณะที่ชอบ เรียนแล้วต้องมีควาามสุข แล้วคณะที่จะเรียนต้องนนำไปสู่งานที่อยากจะทำมากทีสุด

  8. ใช่คะไม่มีใครที่จะทำอะไรถูกตั้งแต่ครั้งแรกเพราะถ้าเราไม่เคยผิดพลาดก็จะไม่มีอดีตให้เราย้อนกลับไปดูว่าตอนนี้เราเปลี่ยนไปในด้านใดและเพื่ออะไรสำหรับหนูการเลือกเรียนขอใช้แบบผสมค่ะไม่ว่าจะแบบผิวเผนหรือลึกซึ้งก็สำคัญหนูไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่าไรแต่ ณตอนนี้การเลือกเรียนก็ต้องคิดถึงงานที่จะรองรับเราตอนเรียนจบด้วยว่าตรงกับด้านที่เราเรียนไหมแต่ที่สำคัญไปกว่านี้คือเราชอบสิ่งที่เลือกหรือปล่าวแต่ถึงแม้ว่าต่อไปสิ่งที่หนูเลืกจะต้องเปลียนแปลงไปเมื่อหนูค้นพบสิ่งที่ต้องการจริงๆการที่จะเริ่มใหม่กับสิ่งที่ใช่เหมือนอย่างคุณม่อนก็ไม่ได้ผิดอะไร

  9. การที่จะเลือกคณะอะไรก็ต้องดูว่าเราไหมแล้วต้องดูว่าจะมีงานลองรับหรือเปล่าแต่เราต้องเลือกคณะที่เราชอบ

  10. รู้จักตัวเอง รู้ว่าตัวเองชอบอะไร และทุ่มเททำออกมาให้ดีที่สุด อนาคตวันข้างหน้าอยู่ที่เราเลือกทำในวันนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คืออนาคตของเรานั้นต้องการที่จะทำงานอะไรกันแน่รักงานนี้มั้ย ถ้าตอบตัวเองว่าใช่ก้อลงมือตั้งใจทำในสิ่งที่ตัวเองรักซะ แล้วอนาคตเมื่อเรียนจบเราจะมีความสุขกับงานที่ทำ และไม่ต้องมาเสียใจภายหลังว่างานที่ทำมันไม่ใช่ตัวเอง เพราะเมื่อเราโตขึ้น ได้เห็น ได้ฟังอะไรๆมากขึ้น ความคิดเราจะเปลี่ยนแปลงไปตามที่เราตั้งใจ

  11. ผมคิดว่าถ้าผมจะเลือกเรียนอะไรผมต้องมองดูตัวเองก่อนว่าเราเหมาะกับคณะนี้ไหมหรือว่าเราชอบในคณะนี้ไหมแล้วจบแล้วเราจะไปทำอะไรงานรองรับมีไรบ้างที่เราชอบหรืออยากทำ

    -ทางเลือกที่เราเลือกจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
    -เมื่อเลือกแล้วเราต้องชอบและทำได้ดี
    -เราต้องศึกษาแล้วได้สิ่งตอบแทนคืองานที่เราต้องการทำหรืองานรองรับนั่นเอง

  12. ถามความสนใจของตัวเองก่อนว่าเรามีความสนใจในคณะที่เราเลือกมากน้อยเพียงใด แล้วก็เลือกในสิ่งที่ใช่และชอบ ไม่เลือกเรียนตามเพื่อนให้เราเลือกตามความถนัดของเรา

  13. เราต้องต้องเลือกเรียนในคณะที่เราชอบ เพราะว่าในคืออนาคตของเราและเป็นสิ่งที่เราเลือกจะทำแล้วเราจะต้องทำให้มันดีที่สุดเพื่อตัวของเราเอง

  14. การที่เราเลือกคณะที่จะเรียนนั้นต้องขึ้นอยู่กับว่าเราชอบและพอใจหรือว่าจบมาแร้วจะมีงานทำมั๊ยแต่สำหรับหนูนะคะการเรียนเป็นสิ่งที่สำคัญและยิ่งการเรียนในมหาลัยเป็นสิ่งที่ทุกคนรอคอยหนูจีงตัดสอนใจที่จะเลือกคณะที่ตนเองชอบไม่ได้คาดหวังว่าจบมาแล้วจะมีงานทำไม เงินเดือนเท่าไร ถ้าหนูตั้งใจที่จะเรียนจิงๆหนูก็ต้องสู้สมมติว่าคณะนั้นไม่ใช่ไม่เหมาะสมกับเราหนูก็พร้อมที่จะพัฒนาเรียนรู้แก้ไขข้อบกพร่องของตนเองจนประสบความสำเร็จค่ะ

  15. สำหรับหนูจะดูว่าคณะนี้หนูชอบมั้ย…เหมาะสมกับเรามั้ย…แล้วเรียนจบมาจะมีงานรองรับมั้ย….แล้วมันจะมั่นคงหรือป่าว…เราต้องมีเหตุและผลมากพอในการเลือกเพราะมันมีผลต่ออนาคตของเรามากๆๆ

  16. การที่เราจะตัดสินใจเลือกเรียนคณะอะไรลงไปเราต้องถามใจตัวเราให้ดีเสียก่อนว่าเรารักและเราชอบคณะที่เราจะเรียนไหมหรือแค่เรียนตามเพื่อนเพราะการตัดสินใจเรียนคณะอะไรลงไปมันอาจจะหมายถึงหน้าที่การงานในอนาคตของเราเลยก็ได้อย่างเช่นหนูอยากจะเป็นครูหนูก็เลือกที่จะเรียนครูเพราะมันเป็นความฝันของหนูและหนูคิดว่าจะทำให้หนูประสบความสำเร็จได้เพราะเป็นคณะที่หนูชอบ หนูต้องพยายาม อดทนและตั้งใจเรียนให้ดีที่สุดเพื่ออนาคตและความใฝ่ฝันของหนูค่ะ

  17. การที่ผมจะตัดสินใจเลือกเรียน อะไรจะต้องคิดให้ดีที่สุดถามใจตัวเราให้ดีเสียก่อนว่าเรารักและเราชอบคณะที่เราจะเรียนไหมหรือแค่เรียนตามเพื่อนเพราะการตัดสินใจเรียนคณะอะไรลงไปมันอาจจะหมายถึงหน้าที่การงานในอนาคตของเราเลยก็ได้

    -ทางเลือกที่เราเลือกจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
    -เมื่อเลือกแล้วเราต้องชอบและทำได้ดี
    -เราต้องศึกษาแล้วได้สิ่งตอบแทนคืองานที่เราต้องการทำหรืองานรองรับนั่นเอง

  18. การเลือกคณะของหนู แต่ก่อนก็เคยคิดว่าจะเลือกคณะที่เราชอบเราสนใจ แต่ตอนนี้หนูคิดว่าจะเอาแบบความคิดแต่ก่อนไม่ได้แล้ว ต้องนึกถึงอาชีพของคณะที่จะเรียน ว่าเรียนแล้วเราจะมีงานทำมั้ย จบมามีงานรองรับหรือป่าว คงต้องนึกถึงเรื่องนี้เป็นหลักแหละค่ะ

  19. ในการเลือกของผมจะตัดสินใจ ที่จะต้องคิดให้ดีที่สุดแล้วถามใจตนเองว่าชอบกับสาขานั้นหรือปล่าหรือแค่เรานั้นเรียนตามเพื่อนเพราะการตัดสินใจเรียนคณะอะไรลงไปมันอาจจะหมายถึงหน้าที่การงานในอนาคตของเราเลยก็ได้และที่สำคัญส้นทางเลือกที่เราเลือกจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดหรือเลือกแล้วเราต้องชอบและทำได้ดีและสุดท้ายเราต้องศึกษาแล้วได้สิ่งตอบแทนคืองานที่เราต้องการทำหรืองานรองรับนั่นเอง

  20. การเลือกเรียนของผมก็อาจจะมีทั้งสองอย่างนี้รวมๆกัน เลือกแบบที่ว่าจบมาแล้วเงินดีไหม เราจะเรียนไหวไหม เลื่อนตำแหน่งได้ไหม และก็ทำงานได้หลากหลายไหม แต่สำหรับผมเราก็ต้องดูการเรียนของตัวเอง และหัวสมองของเราด้วย

  21. สำหรับผมจะตัดสินใจเลือกที่ตนเองชอบก่อน เพราะว่าคณะที่เราชอบจะเป็นคณะที่เราตั้งใจเรียนที่สุด

  22. สิ่งแรกคือผมต้องชอบในคณะที่จะเรียน เรียนแล้วจบมาทำงานอะไรแล้วงานนั้นเป็นงานที่เราอยากทำไหม

  23. เราอยากเรียนคณะนี้และคณะนี้มีความต้องการของตลาดมากแค่ไหนแต่อย่างไรก็ตามทุกอย่างต้องขึ้อยู่กับความสามารถและความพยายามของเรา

  24. ในความคิดของหนู หนูว่าการเลือกคณะนั้นมีเหตุผลที่หลากกลายมากไปกว่า 2 เหตุผลนี้ แต่ว่า2เหตุผลนี้ก็มีส่วนในการเลือกคณะของหนูถึงหนูจะชอบคณะนั้น ๆ อย่างไร แต่ถ้าจบมาแล้วไม่มีงานทำ หรือพ่อแม่ไม่อยากให้เรียนคณะนั้น ๆ มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่เราจะดึงดันเรียนต่อไป สรุปเลยก็คือ หนูต้องการเลือกคณะที่จบมาแล้วมีงานทำดี ๆ และพ่อแม่ต้องภาคภูมิใจค่ะ

  25. การเลือกคณะที่จะเรียนสำหรับผมก็เป็นว่าเมื่อเรียนจบแล้วมันจะมีงานมาลองรับหรือเปล่า มีความมั่นคงในอาชีพแค่ไหน มีความปลดภัยในการทำงานมากน้อยเพียงใด ส่วนการชอบในสาขาอะไรนั้นขึ้นอยู่กับผลหลังจากการเรียนจบ เพราะถ้าเลือกเรียนที่ชอบ แล้วจบมางานที่ทำมันไม่มั่นคง ก็ไม่น่าจะที่จะเรียนครับ

  26. สิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับความสามารถของตนเองไม่จำเป็นตองตามเพื่อนเพราะอนาคตของตนเองขึ้นอยู่กับเรามากกว่าและคณะที่เลือกเรียนเราต้องชอบและถนัดเป็นสิ่งที่เราใฝ่ฝันมานานและจะทำให้มันสำเร็จได้ด้วยตนเองเพื่อจะมีอาชีพที่มั่นคงและมีชีพที่สุจริตต่อไปคะ

  27. การเลือกคณะที่จะเรียนสำหรับหนู ก็คงเป็นว่า เมื่อเราเรียนจบแล้วมีงานมำไหม มีความมั่นคงในอาชีพแค่ไหน มีความปลดภัยในการทำงานมากน้อยเพียงใด ส่วนการชอบในสาขาที่จะเรียนก็ส่วนหนึ่งค่ะ แต่ไม่มาก เพราะถ้าเลือกเรียนที่ชอบ แล้วจบมางานที่ทำมันไม่มั่นคง

  28. สิ่งแรกของการเลือกเรียนคณะ หนูจะเลือกคณะที่หนูชอบ ที่สิ่งที่หนูชอบ หนูถนัดไหม แล้วถ้าจบไปเราจะไปทำงานอะไร เรียนไปเราจะไวไหม เนี่ยแหละค่ะสิ่งที่หนูเลือกสาขา คณะที่หนูอยากเรียนได้ ไม่ต้องทำตามความต้องการของใคร แค่เราทำตามคามคิด ความฝันของเราก็พอ ถ้าเราเชื่อคนอื่น ตามคนอื่น แล้วไปเรียนคณะที่เราไม่ถนัด เราอาจจะเรียนไม่จบได้ ถ้าเราเรียนไม่จบเราก็เสียเวลาการเรียนมา เสียเงิน
    ถ้าเราได้ที่เรียน ได้สาขาที่เราต้องการ เราก็ควรตั้งใจ เรียน ตั้งใจศึกษาให้จบ เพื่ออานาคตของตัวเอง และเพื่อคนที่สั่งเราเรียนด้วย….

  29. เลือกคณะในสิ่งทนตนถนัดไม่หักโหมเพราะจะทำให้เครียดจนเรียนไม่ไหว สุดท้ายต้องจบแล้วมีหน้าที่การงานที่ดี

  30. เราควรเลือกเรียนที่เราชอบ ไม่ควรตามเพื่อนและฟังคนอื่นพูด เราควรรู้ตัวเองว่าเราถนัดอะไร ต้องการเรียนอะไร จบไปแล้วจะมีงานทำไม
    -ทางเลือกที่เราเลือกจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
    -เมื่อเลือกแล้วเราต้องชอบและทำได้ดี
    -เราต้องศึกษาแล้วได้สิ่งตอบแทนคืองานที่เราต้องการทำหรืองานรองรับนั่นเอง
    ถ้าเราได้เรียนและได้ศึกษาแล้ว เราควรทำให้มันดีที่สุด เพื่อตัวของเราเอง

  31. เลือกคณะที่เราชอบ และคิดด้วยว่าจบไปแล้วจะทำงานอะไรได้ เรามีทางเลือกอยากจะเป็นอะไร เราชอบอะไร ต้องศึกษาต่ออะไร เมื่อเราได้ศึกษาแล้ว เราควรทำให้ดีทีสุด และขยัน ตั้งใจที่จะเรียนและศึกษาต่อ

  32. เลือกคณะที่เราชอบ แล้วก็ต้องดูว่าเหมาะสมกับเรามากน้อยเพียงใด จบไปมีงานทำหรือไม่

  33. การเลือกคณะที่จะเรียนสำหรับหนู ก็คงเป็นว่า เมื่อเราเรียนจบแล้วมีงานมำไหม มีความมั่นคงในอาชีพแค่ไหน มีความปลดภัยในการทำงานมากน้อยเพียงใด ส่วนการชอบในสาขาที่จะเรียนก็ส่วนหนึ่งค่ะ แต่ไม่มาก เพราะถ้าเลือกเรียนที่ชอบ แล้วจบมางานที่ทำมันไม่มั่นคง

  34. เราต้องต้องเลือกเรียนในคณะที่เราชอบ เพราะว่าในคืออนาคตของเราและเป็นสิ่งที่เราเลือกจะทำแล้วเราจะต้องทำให้มันดีที่สุดเพื่อตัวของเราเอง ค่ะ

  35. มันก็ต้องดูนะค่ะว่าคณะที่เราชอบมันเหมาะกับสังคมสมัยนี้หรือเปล่าเพราะช่วงนี้ทุกคนก็รู้ดีว่ามันเกิดปัญหาเกี่ยวกับเศรษฐกิจอย่างไรบ้างเราก็ต้องดูว่าคณะที่เราพอถนัดและจบออกมาสามารถหางานทำได้ไม่ยากเราพอที่จะเรียนได้เราก็ควรที่จะเรียนเพื่อความมั่นคงของตัวเองค่

  36. ณตอนนี้การเลือกเรียนก็ต้องคิดถึงงานที่จะรองรับเราตอนเรียนจบด้วยว่าตรงกับด้านที่เราเรียนไหมแต่ที่สำคัญไปกว่านี้คือเราชอบสิ่งที่เลือกหรือปล่าวแต่ถึงแม้ว่าต่อไป

  37. อันดับแรกคือเราต้องรู้จักตัวเราเองก่อนว่าเราชอบอะไรและในอนาคตเราสามารถนำสิ่งที่เราชอบหรือสิ่งที่เราได้เรียนรู้มาใช้ในการดำเนินชีวิตของเราหรือไม่เราถึงจะตัดสินใจเลือก

  38. รู้ว่าตัวเองชอบอะไร และทำออกมาดีแค่หนัย อนาคตวันข้างหน้าเป็นอย่างไร สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คืออนาคตของเรานั้นต้องการที่จะทำงานอะไรกันแน่รักงานนี้มั้ย

  39. อ้อย สำลี เลขที่ 22 ม. 6/1, on 14/12/2011 at 11:37 said:
    ตอนนี้หนูก็ยังไม่รู้ตัวเลยว่าแท้จริงแล้วหนูอยากทำอาชีพอะไรกันแน่ แต่ความคิดแรกที่มันแวบมาในหัว คือ เรียนอะไรก็ได้ที่มีเงินเดือนเยอะๆ แล้วก็เท่ๆด้วย หลังจากที่ได้อ่านเรื่องของม่อน หนูคงต้องเปลี่ยนความคิดซะใหม่ คงจะไม่เลือกเรียนด้วยเหตุผลผิวเผิน แต่จะพยายามค้นพบตัวเองและใช้เหตุผลอย่างลึกซึ้งเลือกเรียน

  40. ใช้ความชอบเลือกจากสิ่งที่เรามีความสุขที่จะได้เรียนและงานที่เราจะได้ทำในอนาตค เลือกที่เหมาะสมกับความสามารถให้มากที่สุด เลือกสิ่งที่เราชอบที่สุดเหมาะกับเราที่สุดเพราะมันคือตัวชี้ทางในอนาคตของเรา

  41. ก็คิดว่าน่าจะเป็นสิ่งที่เราสามารถทำได้ดีและชอบ เลือกสิ่งที่เหมาะสำหรับความสามารถของตัวเอง ดูว่าอนาคตมันมีความต้องการขนาดไหนเรียนไปแล้วมันจะใช่ตัวเองหรือเปล่า แต่ดีที่สุดคือเลือกในสิ่งที่เป็นความจริงและคิดว่าสามารถทำมันได้ค่ะ

  42. สำาหรับผม เลือกจากความชอบก็อยากเป็น เลือกจากความถนัด เลือกที่จบมาแล้วได้เงินเดือนเยอะๆ เลือกที่จบมาแล้วมีงานแน่นอนมั่นคง
    ยกตัวอย่างเช่น
    ความชอบอยากเป็นหมอ พอถนัดเป็นวิศวะ ได้เงินเป็นกระบะต้อง IT มั่นคงมั่งมีต้องเป็นครู

    ประมาณนี้ครับ

  43. สำหรับหนุคิดว่าควรเลือกคณะที่จะเรียนจาก ความถนัด ความชอบ อย่างเดียวไม่พอ ก็ควรดูด้วยว่า สิ่งที่เลือกนั้น เราสามารถที่จะทำได้จริงรึป่าว อันนี้ หนูยังหาข้อสรุปให้ตัวเองไม่ได้ แต่ก้จะพยายามให้ดีที่สุดต่อไป เมื่อเลือกแล้วก็ต้องทำให้ประสบความสำเร็จใช่มั้ยค่ะ 55+

  44. การเลือกคณะที่จะศึกษาต่อ หนูจะเลือกสิ่งที่หนูถนัดและคิดว่าหนูจะทำสิ่งนั้นได้
    เพราะทุกคนต่างต้องเดินไปข้างหน้าและเลือกเส้นทางของตัวเอง สิ่งที่เราเลือกจะอยู่กับเราตลอด เพราะฉะนั้นควรเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด

  45. การที่จะเลือกคณะอะไรก็ต้องดูว่าเราไหมแล้วต้องดูว่าจะมีงานลองรับหรือเปล่าแต่เราต้องเลือกคณะที่เราชอบ

  46. ในการตัดสินใจเลือกคณะของหนู ก็ใช้เกณฑ์ที่ว่า เราชอบคณะนี้มั้ย อยากเรียนหรือป่าว เหมาะสมกับตัวเองมั้ย และคณะที่เรียนมีอาชีพที่รองรับหรือไม่ สำหรับบหนูหนูก็อยากเลือกเรียนคณะที่เรียนแล้วจบมามีงานทำที่มั่นคงและมีเงินเดือนพอเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้

  47. ในการที่เราจะเลือกจะเลือกคณะอะไร เราต้องดูก่อนว่าเราชอบหรือไม่ ถนัดไหม และต้องดูว่าเราชอบอะไร จบไปแล้วมีงานทำหรือไม่ รวมถึงฐานะด้วย

  48. ส่วนตัวของผมก็จะเลื่อกในคณะที่ถนัดและชอบเป็นพิเศษก่อนแล๊วต่อไปก็จะดูในเรื่องของอาชีพที่จะทำและก็เป็นเรื่องของเงินเดือน แต่ก่อนที่เราจะเลือกเรียนเราควรดูฐานะของทางบ้านเราด้วย ว่าส่งส่งเสียเราไปจนจบหรือป่าว

  49. เราต้องต้องเลือกเรียนในคณะที่เราชอบ เพราะว่าในคืออนาคตของเราและเป็นสิ่งที่เราเลือกจะทำแล้วเราจะต้องทำให้มันดีที่สุดเพื่อตัวของเราเอง
    และเราก็จะมีความสุขในคณะที่เราเลือก

  50. ผมอยากเรียนด้านสร้างโปรแกรมเกี่ยวกับเกมส์คือว่าอยากเรียนด้านแอนนิเมชั่นหรือคอมพิวเตอร์ เพราะว่าผมชอบเล่นเกมส์มากซึ่งเป็นประโยชนย์มากครับ

  51. ดิฉันอยากเรียนทางด้านการบริการค่ะเพราะว่าดิฉันอยากทำงานโรงแรมมากค่ะเงินเดือนดีและเป็นงานที่เรารักเราก็อยากทำและก็จะทำมันออกมาได้ดีด้วยถ้าเราจะเรียนอะไรก็เรียนด้านที่ตัวเองรักเพราะจะทำออกมาได้ดีที่สุด

  52. นายอรรถวุฒิ คล้ายพันธุ์ ม.6/1 เลขที่ 7 พูดว่า:

    สำหรับผมคิดว่าการเลือกเรียนของผมก็อาจจะมีทั้งสองอย่างนี้รวมๆกัน เลือกแบบที่ว่าจบมาแล้วเงินดีไหม เราจะเรียนไหวไหม เลื่อนตำแหน่งได้ไหม และก็ทำงานได้หลากหลายไหม แต่สำหรับผมเราก็ต้องดูการเรียนของตัวเอง และหัวสมองของเราด้วย

ส่งความเห็นที่ นายอรรถวุฒิ คล้ายพันธุ์ ม.6/1 เลขที่ 7 ยกเลิกการตอบ

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

Up ↑