ผู้เรียนเป็นสำคัญ ::จิตศึกษา::

     ทุกวันเช้าศุกร์ หลังเลิกแถวหน้าเสาธง  นักเรียนทุกคนจะมาทำกิจกรรมจิตศึกษาร่วมกันทั้งหมดของโรงเรียน

ทั้งนี้การทำกิจกรรมจิตศึกษาในเช้าวันศุกร์จะมีผู้นำในการทำกิจกรรมคือนักเรียนในแต่ละระดับชั้น โดยมีการสับเปลี่ยนหนุมเวียนกันไป

เช้านี้เป็นระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นผู้นำกิจกรรม โดยเด็กชายอยู่ บาน ตัวแทนนักเรียนชั้นม.3 ร่วมกับเพื่อนร่วมชั้นเป็นแกนนำในการทำกิจกรรม

สิ่งหนึ่งที่เป็นที่สังเกตช่วงของการทำกิจกรรม Brain Gym เด็กชายอยู่  บาน พาพี่ๆน้องๆ ทำท่าโดยใช้มือประกอบ 3 ท่า

IMG_20190913_083721

ประสานมือ

                                            กำปั้นชนกัน                                                  พนมมือ

      ภายหลังจากที่เด็กชายอยู่ได้สาธิต 3  ท่าแก่นักเรียนทุกคนทราบ  ก็ให้นักเรียนในวงจิตศึกษาเลือกเพียงแค่ 1 ท่าที่ตนเองชอบที่สุด

     จากนั้นให้นักเรียนทุกคนในวงเลือกท่าที่ชอบ 1 ท่าตามลำดับ  จากนั้นเด็กชายอยู่ ก็ทำหน้าที่พยากรณ์ความรู้สึกของทุกคนในวงจิตศึกษา

      คนที่เลือกการ ประสานมือ  – แทนด้วยสีเขียว หมายถึงความ กล้าหาญ / กล้าแสดงออก ในที่นี้มีนักเรียน แสดงออกด้วยท่ามือประสานกันประมาณ 10 %

     คนที่เลือกการ พนมมือ – แทนด้วยสีฟ้า หมายถึงความ สงบ ในที่นี้มีนักเรียน แสดงออกด้วยท่ามือพนมมือกันประมาณ 50 %

     คนที่เลือกการใช้กำปั้นชนกัน  – แทนด้วยแดง หมายถึงความ โกรธ/ไม่พอใจ ในที่นี้มีนักเรียน แสดงออกด้วยท่ากำปั้นชนกันประมาณ 40 %

      เด็กชายอยู่ใช้การทำ Brain Gym ด้วยท่า 3 ท่านี้

      IMG_20190913_082958

       หลังจากการทำกิจกรรมจิตศึกษาเสร็จ  ผมจึงเรียกเด็กชายอยู่มาคุยด้วย   เพื่อการเรียนรู้วิธีคิดของเขา

     ผอ: อยู่ทำไมหนูถึงใช้ท่าBrain Gym 3 ท่านี้

     อยู่: ผมอยากทำอะไรที่ใหม่ๆ. ไม่ซ้ำของเดิมครับผอ.

      ผอ: อยู่คิดมานานยัง

      อยู่:3 วัน แล้วครับผอ.

      ผอ: ดีนะ. กล้าคิด และสร้างสรรค์ดี

      ผอ: อยู่ หนูคิดว่าการทำจิตศึกษาโดยการทำรวมกันแบบนี้หนูคิดว่าดีไหม

      อยู่: มันก้อดีครับผอ. การทำรวมกันทั้งหมด จะเป็นการทำให้นักเรียนแต่ละห้องได้มีการคัดเลือกคนเก่ง คนกล้า ออกมาเป็นแกนนำในการทำกิจกรรม. การทำในห้อง นักเรียนมีส่วนร่วมน้อย ครูเป็นผู้นำทำกิจกรรมเป็นส่วนใหญ่
             แต่ผมอยากให้ครูลงมานั่งในวงทำกิจกรรมร่วมกับเด็ก ๆ เพื่อเป็นการสร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างครูกับเด็ก เป็นการสร้างความเป็นกันเองให้เพิ่มมากขึ้

      ผอ: ก้อดีนะความคิดเรา. แล้วเราคิดไงกับการทำกิจกรรมจิตศึกษาที่ผ่านมา

      อยู่ :ผมมองการทำจิตศึกษาเหมือนการก้าว ๓ ก้าวตอนนี้เรายังอยู่แค่ก้าวแรกเท่านั้นเองครับ

      ผอ: แล้วทำอย่างไรจึงจะไปยังก้าวที่ ๒ และถึงก้าวที่ ๓ ที่เราคิด อยากให้ลองเสนอแนะปรุงแต่งเสนอแนะดูสิ เพื่อให้ทำจิตศึกษาไปถึงก้าวที่ ๓ เหมือนการทานก๋วยเตี๋ยว ต้องปรุงก่อนทานเสมอ คงไม่มีใครทานโดยไม่ปรุงมีก้อน้อย

     อยู่:ทานก๋วยเตี๋ยวทุกวันมันก็เบื่อนะครับ ผอ. (สวนทันที)

    ผอ: อ้าว

    อยู่ :มัน ๆ  เปลี่ยนบ้าง จิตศึกษาก็เหมือนกินก๋วยเตี๋ยว ทำทุกวันซ้ำ ๆ ผมก็เบื่อ อยากให้มีกิจกรรมที่ไม่ซ้ำซาก จำเจ

   ผอ: แล้วดีไหม การทำจิตศึกษา

   อยู่: ดีครับ แต่ผมมองว่าเด็กบางคนยังไม่มีความกล้าพอที่จะคิดและแสดงออกมา อยากให้นักเรียนมีความกล้าแสดงออกมากกว่านี้

 …เรียกครูวนิดามาร่วมรับฟัง….

    ผอ: หนูบอกครูสิว่าหนูรู้สึกอย่างไร

“………………………………………………………………………………………..”

    ครูวนิดา: หนูคิดหรือผอ.คิด                                             

     อยู่ : ผมคิดครับ     

     ผอ:หนูมีอะไรจะเสนออีกไหม… 

     อยู่:..เสนอได้ใช่ไหมครับ    

     ผอ: ได้…ทำไมจะไม่ได้ยินดีเลย

     อยู่:ผมเคยพูดในที่ประชุมสภานักเรียนหลายครั้ง

     ผอ: อะไรเหรอ…      

     อยู่ :..ผมอยากให้มีออดในโรงเรียน

     ผอ: การที่ไม่มีออดมันเป็นการฝึกตัวเองด้วยตัวเราเอง โดยไม่ให้มีสิ่งใด/วัสดุใดมากำหนดให้ว่าเราจะทำอะไรตอนไหน เหมือนไก่กับนกกาเหว่าที่ส่งเสียงขันหรือร้องเป็นเวลา โดยไม่มีสิ่งใดมาคอยเตือน มันรู้ตัวของมันเอง
     …เหมือนกับเรา ถ้าเราฝึกให้ตัวเรามีวินัยในตัวเองได้เอง โดยที่ไม่มีสิ่งใดมาบอก มาเตือน เราสามารถทำได้เองโดยอัตโนมัติ จะดีกว่าไหม ฝึกตัวเราเองเริ่มที่ตัวเรา

    อยู่: ครับ (ยิ้มบาน)        

…………………………………………..

“เด็กยุดใหม่ ถ้าเราเปิดประตูของความไว้วางใจ  เขาก็จะ  กล้าคิด

กล้าทำ  กล้าพูด (นำเสนอ) แต่ต้องไม่ก้าวร้าว”

original_original_banneranigif

ทบทวนเรื่องการลา:ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

     เรื่องราวว่าด้วยการลาของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา  อาจดูเป็นเรื่องเล็ก ๆ ใกล้ตัวที่บางครั้ง บางคนอาจมองข้ามความสำคัญ แต่จริงแล้วการลาเป็นเรื่องสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อตนเองและองค์กรของเพื่อนครูอย่างเลี่ยงไม่ได้

 

    เพราะการลาป่วย ลากิจส่วนตัว ซึ่งเป็นการลาที่ส่วนใหญ่พวกเราใช้บริการบ่อยครั้ง มีผลต่อการประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา รวมทั้งเกี่ยวโยงไปถึงการขอพระราชทานเหรียญจักรพรรดิมาลา ของเพื่อนข้าราชการครูที่รับข้าราชการมาเป็นระยะเวลานาน ๒๕ ปีขึ้นไป

    วันนี้เลยขอนำเสนอเรื่องราวว่าด้วยเรื่องการลาตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนาตรีว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ.๒๕๕๕ ที่ก.ค.ศ. มีมติให้นำระเบียบดังกล่าวมาบังคับใช้กับเพื่อนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาโดยอนุโลม ตามหนังสือ ก.ค.ศ. ที่ ศธ. ๐๒๐๖.๗/ ๔๒ ลงวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์  ๒๕๕๕ โดยเฉพาะการลาป่วย ลากิจส่วนตัว ซึ่งใกล้ตัวเพื่อนข้าราชการครูเรา

     การลาตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการลาของข้าราชการ  พ.ศ. ๒๕๕๕ มี  ๑๑  ประเภท  คือ

๑.      การลาป่วย

๒.      การลาคลอดบุตร

๓.      การลาไปช่วยเหลือภริยาที่คลอดบุตร

๔.      การลากิจส่วนตัว

๕.      การลาพักผ่อน

๖.      การลาอุปสมบทหรือการไปประกอบพิธีฮัจย์

๗.      การลาเข้ารับการตรวจเลือกหรือเข้ารับการเตรียมพล

๘.      การลาไปศึกษา ฝึกอบรม  ปฏิบัติการวิจัย  หรือดูงาน

๙.      การลาไปปฏิบัติงานในองค์การระหว่างประเทศ

๑๐.    การลาติดตามคู่สมรส

๑๑.    การลาไปฟื้นฟูสมรรถภาพด้านอาชีพ

วันนี้ขอเน้นไปที่ลาป่วยและลากิจส่วนตัว

       การลาป่วย  หมายความว่า  เป็นการลาหยุดเพื่อรักษาตัวเมื่อมีอาการป่วย

หลักเกณฑ์การลา

           – ลาป่วยติดต่อกันตั้งแต่สามสิบวันขึ้นไปต้องมีใบรับรองแพทย์

          – การลาป่วยไม่ถึงสามสิบวัน ไม่ว่าจะเป็นครั้งเดียวหรือหลายครั้งติดต่อกัน ถ้าผู้มีอำนาจอนุญาตเห็นสมควรจะสั่งให้มีใบรับรองแพทย์ หรือสั่งให้ผู้ลาไปรับการตรวจจากแพทย์ของทางราชการ เพื่อประกอบการพิจารณาอนุญาตก็ได้

          –  มีสิทธิได้รับเงินเดือนระหว่างลาป่วยปีหนึ่งได้  ๖๐ – ๑๒๐ วัน

การเสนอหรือจัดส่งใบลา

         –  ให้เสนอหรือจัดส่งใบลาต่อผู้บังคับบัญชาตามลำดับ  จนถึงผู้มีอำนาจอนุญาต

         – ให้เสนอ  หรือจัดส่งใบลาก่อนหรือในวันที่ลาก็ได้ ยกเว้นในกรณีจำเป็นจะเสนอหรือจัดส่งใบลาในวันแรกที่มาปฏิบัติราชการก็ได้

         – กรณีป่วยจนไม่สามารถจะลงชื่อในใบลาได้ จะให้ผู้อื่น ลาแทนก็ได้ แต่เมื่อสามารถลงชื่อได้แล้วต้องเสนอหรือจัดส่งใบลาโดยเร็ว

         – การลาป่วย แม้จะมีราชการจำเป็นเกิดขึ้นในระหว่างลาป่วยอยู่นั้น ผู้มีอำนาจอนุญาตก็ไม่สามารถเรียกตัวผู้นั้นมาปฏิบัติงานได้ ทั้งนี้เพราะการลาป่วยเป็นเรื่องจำเป็น

          การลากิจส่วนตัว หมายความว่า เป็นการลาหยุดเพื่อทำธุระ  เช่น ลาหยุดเพื่อดูแลรักษาผู้ป่วย เป็นต้น

 การลากิจส่วนตัวอาจแยกได้  ดังนี้

(๑)     การลากิจส่วนตัว  (ด้วยเหตุอื่น)

(๒)     การลากิจส่วนตัวเพื่อเลี้ยงดูบุตร

      หลักเกณฑ์การลากิจส่วนตัวด้วยเหตุอื่น

–    มีสิทธิได้รับเงินเดือนระหว่างลา เมื่อมีราชการจำเป็นเกิดขึ้นในระหว่างลากิจส่วนตัวอยู่นั้น ผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจอนุญาตจะเรียกตัวผู้นั้นมาปฏิบัติงานก็ได้

หลักเกณฑ์การลากิจส่วนตัวเพื่อเลี้ยงดูบุตร

– ข้าราชการที่ได้ลาคลอดบุตร ๙๐ วัน (นับวันหยุดราชการรวมด้วย) โดยได้รับเงินเดือน(ตามที่กำหนดในข้อ ๑๙)แล้ว มีสิทธิลากิจส่วนตัวเพื่อเลี้ยงดูบุตรต่อเนื่องจากการลาคลอดบุตรไม่เกิน ๑๕๐ วันทำการ  โดยไม่มีสิทธิได้รับเงินเดือนระหว่างลา

– ระหว่างลากิจส่วนตัวเพื่อเลี้ยงดูบุตร แม้จะมีราชการจำเป็นเกิดขึ้นในระหว่างลาอยู่นั้นผู้มีอำนาจอนุญาตก็ไม่สามารถเรียกตัวผู้นั้นมาปฏิบัติงานได้

การเสนอหรือจัดส่งใบลา  (ลากิจส่วนตัวด้วยเหตุอื่น หรือเพื่อเลี้ยงดูบุตร)

– ให้เสนอหรือจัดส่งใบลาต่อผู้บังคับบัญชาตามลำดับ จนถึงผู้มีอำนาจอนุญาต

– ต้องได้รับอนุญาตก่อนจึงหยุดราชการได้ เว้นแต่ มีเหตุจำเป็นไม่สามารถรอรับอนุญาตได้

-ให้จัดส่งใบลาพร้อมระบุเหตุจำเป็นไว้แล้วลาหยุดไปก่อนได้  แต่จะต้องชี้แจงเหตุผลให้ผู้มีอำนาจอนุญาตทราบโดยเร็ว หรือมีเหตุพิเศษ ที่ไม่อาจเสนอหรือจัดส่งใบลาก่อนหยุดได้ เมื่อหยุดไปแล้ว ให้เสนอหรือจัดส่งใบลาพร้อมระบุเหตุผลความจำเป็นต่อผู้บังคับบัญชาตามลำดับ จนถึงผู้มีอำนาจอนุญาตทราบทันทีในวันแรกที่มาปฏิบัติราชการ

อำนาจการอนุญาตการลา

        ผู้อำนวยการสถานศึกษา

  • ลาป่วย ครั้งหนึ่งไม่เกิน ๖๐ วันทำการ

  • ลากิจส่วนตัว ครั้งหนึ่งไม่เกิน  ๓๐  วันทำการ

นอกเหนือจากนี้เป็นอำนาจ ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา

ส่วนเกณฑ์การลาบ่อยครั้ง ก็ไม่ควรหลงและลืม

  • ปฎิบัติงานในโรงเรียน ลาเกิน ๖ ครั้ง

เกณฑ์การมาสายเนื่องๆ

  • ปฎิบัติงานในโรงเรียน สายเกิน ๘ ครั้ง

เพราะข้อพึงระวัง

  • ลาเกิน(ลาบ่อยครั้ง)จำนวนครั้งที่กำหนด ไม่ได้เลื่อนขั้นเงินเดือน

  • เว้นแต่ถ้าวันลาไม่เกิน ๑๕ วันและมีผลการปฏิบัติงานดีเด่นอาจผ่อนผันให้เลื่อนขั้นเงินเดือนได้

    • มาทำงานสายเนื่องๆ ไม่ได้เลื่อนขั้นเงินเดือน
    • ลาป่วย + ลากิจส่วนตัว เกินกว่า ๒๓ วันทำการ ไม่ได้เลื่อนขั้นเงินเดือน

    จึงอยากทบทวนเพื่อให้เพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษาอย่างเรา ๆ ไม่พลาดในเรื่องใกล้ตัว

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม

ระเบียบสำนักนายกรัฐมนาตรีว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ.๒๕๕๕

การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน

วันวานได้มีโอกาสไปร่วมสังเกตการจัดกระบวนการเรียนรู้ของครูกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยมีอาจารย์จากมหาวิทยาลัยรำไพพรรณีมาร่วมสังเกตและวิพากษ์การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยความร่วมมือของ สสวท.

1501916_711474782209579_1919581612_nสังเกตได้ว่าคุณครูเป็นครูเพิ่งบรรจุใหม่ไม่กี่ปี แต่มีความมั่นใจในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้อย่างดี เตรียมสื่อ และที่สำคัญไม่มีการประหม่า ตกใจที่ในห้องเรียนมีคุณครู อาจารย์ มาร่วมสังเกตอยู่ในชั้นเรียนที่คุณครูได้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยหลายคนน่าชื่นชมสมกับเป็นครูรุ่นใหม่ ครูมืออาชีพที่เหมาะกับการพัฒนาศักยภาพผู้เรียนสู่ศตวรรษที่ 21 จริง

วันนี้เลยนำสื่อพัฒนาคุณภาพการเรียนวิทยาศาสตร์ โดยใช้ 4 จุดเน้น ­ที่จะพัฒนาเด็กไทยและคนไทยใ­ห้เป็นผู้เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่า­งมีคุณภาพ ดังนั้นการจัดการเรียนรู้ของครู จึงต้องมีการวิเคราะห์หลักสูตร และการจัดการเรียนรู้ที่เน้นเด็­กเป็นศูนย์กลาง ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า “กรบวนการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน หรือ 5 STEPs” ซึ่งเป็นแนวการจัดการเรียนการสอ­นโดยใช้วิธีการสืบสอบหรือวิธีสอ­นแบบโครงงาน ประกอบด้วย การตั้งคำถาม การแสวงหาสารสนเทศ การสร้างความรู้ การสื่อสาร และการตอบแทนสังคม ซึ่งจะเป็นตัวช่วยพัฒนาครูให้มี­คุณภาพ อีกทั้งจะสามารถทำให้เด็กไทยเป็­นนักเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุ­ณภาพด้วย

เนินทรายวิทยาคม:โรงเรียนดี ที่รอคุณชม

ระบบคุณยอด คุณภาพคุณเยี่ยมที่เนินทรายวิทยาคม

         เมื่อวันวาน ได้มีโอกาสได้เข้าไปเยี่ยมและให้กำลังใจกระบวนการทำงานเพื่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ของระบบงานประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา ตามโครงการระบบคุณยอด คุณภาพคุณเยี่ยม ของโรงเรียนเนินทรายวิทยาคม สพม.๑๗ จังหวัดตราด ยอมรับว่าโครงการได้เปิดมุมมอง และโลกทัศน์แก่ผมในหลาย ๆเรื่องด้วยกัน อย่างน้อยได้มีโอกาสเข้าไปเรียนรู้กระบวนการทำงานเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนในสังกัด สพม.๑๗ ด้วยกัน ซึ่งแต่ละโรงเรียนมีบริบท จุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะโรงเรียนมากมาย

IMG_20131115_104549       อ่านเพิ่มเติม “เนินทรายวิทยาคม:โรงเรียนดี ที่รอคุณชม”

Up ↑